ด้านพลังงาน เมื่อพิจารณาถึงด้านเศรษฐกิจแล้ว การลงทุนผลิตแก๊สชีวภาพจะลงทุนสูงกว่าการผลิต เชื้อเพลิงชนิดอื่น ๆ สามารถนำมาใช้ทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่น ๆ เช่น ฟืน ถ่านน้้ามัน แก๊สหุงต้ม และไฟฟ้า แก๊สชีวภาพจ้านวน ๑ ลูกบาศก์เมตรสามารถน้าไปใช้ได้ดังนี้
๑. ให้ค่าความร้อน ๓,๐๐๐-๕,๐๐๐ กิโลแคลอรี่ ความร้อนนี้จะท้าให้น้้า ๑๓๐ กิโลกรัม ที่อุณหภูมิ ๒๐ องศาเซลเซียส เดือดได้
๒. ใช้กับตะเกียงแก๊สขนาด ๖๐-๑๐๐ วัตต์ ลุกไหม้ได้ ๕-๖ ชั่วโมง
๓. ผลิตกระแสไฟฟ้า ๑.๒๕ กิโลวัตต์
๔. ใช้กับเครื่องยนต์ ๒ แรงม้า ได้นาน ๑ ชั่วโมง
๕. ถ้าใช้กับครอบครัวขนาด ๔ คน สามารถหุงต้มได้ ๓ มื้อ
ด้านปรับปรุงสภาพแวดล้อม โดยการนำมูลสัตว์และน้้าล้างคอกมาหมักในบ่อแก๊สชีวภาพ จะเป็น การช่วยกำจัดมูลในบริเวณที่เลี้ยงทำให้กลิ่นเหม็นและแมลงวันในบริเวณนั้นลดลงและผลจากการหมักมูลสัตว์ ในบ่อแก๊สชีวภาพที่ปราศจากออกซิเจนเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ไข่พยาธิและเชื้อโรคส่วนใหญ่ในมูลสัตว์ตาย ด้วย ซึ่งเป็นการทำลายแหล่งเพาะเชื้อโรคบางชนิด เช่น โรคบิด อหิวาต์ และพยาธิที่อาจแพร่กระจายจาก มูลสัตว์ด้วยกัน นอกจากนี้แล้วยังเป็นการป้องกันไม่ให้มูลสัตว์ถูกชะล้างลงไปในแหล่งน้้าตามธรรมชาติ
ด้านการเกษตร
๑.การทำเป็นปุ๋ย กากที่ได้จากการหมักแก๊สชีวภาพเราสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยได้ดีกว่ามูลสัตว์สด ๆ และปุ๋ยคอก ทั้งนี้เนื่องจากในขณะที่มีการหมัก จะมีการเปลี่ยนแปลงสารประกอบไนโตรเจนในมูลสัตว์ ทำให้ พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
๒. การทำเป็นอาหารสัตว์ โดยนำส่วนที่เหลือจากการหมัก นำไปตากแห้ง แล้วนำไปผสมเป็น อาหารสัตว์ให้โคและสุกรกินได้ แต่ทั้งนี้มีข้อจ้ากัด คือ ควรใส่ อยู่ระหว่าง ๕-๑๐ กิโลกรัม ต่อส่วนผสมทั้งหมด ๑๐๐ กิโลกรัม จะทำให้สัตว์เจริญเติบโตตามปกติและเป็นการลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น